วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ระบบ AS/RS
https://www.youtube.com/watch?v=GjI9krx0oqc


เอสซีจี มีการจัดการตั้งศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลาง (Central Distribution Center: CDC)ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็น Consolidate Platform หรือศูนย์ที่ทำหน้าที่รวมสินค้าหลายชนิดส่งพร้อมกัน โดยจะมีการนำการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติด้วย ASRS มาใช้ในการรับและจัดเก็บสินค้าเข้าคลังสินค้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการทำงานและจำนวนพนักงานลงได้
ระบบ ASRS เป็นการทำงานในการวางและตักสินค้าด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอันตราย หรือกำจัดกิจกรรมที่อาจจะเป็นอันตรายออกจากการปฏิบัติงาน เช่น อุบัติเหตุจากฟอร์คลิฟท์ อุบัติเหตุจากการตกจากที่สูง และอุบัติเหตุจากการร่วงหล่นของสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นการควบคุมอุบัติเหตุที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ตามหลักการควบคุมอุบัติเหตุ 
ระบบ ASRS จะมีการทำงานควบคู่อัตโนมัติอย่างเป็นระบบอยู่ 2 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์  ใช้เทคโนโลยีโรบอทอัตโนมัติ กับซอร์ฟแวร์ที่ สามารถพัฒนา นำไปใช้ได้กับทุกพื้นที่ สำหรับระบบ ASRS ที่ CDC วังน้อยเป็นระบบจัดเก็บและหยิบสินค้าอัตโนมัติ บนชั้นวางสินค้าสูง 13 ชั้น กว่า 4000 โลเคชั่น สามารถจัดเก็บและหยิบสินค้าได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้า

สายพานลำเลียง
https://www.youtube.com/watch?v=Sut5bhpCJ9A



ระบบสายพานลำเลียง
  Daifuku สามารถออกแบบการจัดเรียงได้หลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับตำแหน่งของการจัดส่งและการผลิต ซึ่งจำนวนและปริมาณจะมีขนาดเล็กลงเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและซับซ้อน ผลิตภัณธ์ของเราไม่ได้พัฒนาเพียงแค่ประสิทธิภาพอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีบริการจัดส่งที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพว่าสินค้าจะไม่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ เรายังมีระบบขนส่งที่ตรงตามความต้องการให้อุปกรณ์กึ่งตัวนำมีขนาดเล็กลงและความต้องการแผ่นกระจกที่ใสบริสุทธิ์ ระบบอัตโนมัติสำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ในทุก ๆ กระบวนการและระบบสายพานสำหรับการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระที่สนามบิน Daifuku มุ่นมั่นที่จะปรับปรุงโลจิสติกส์ให้ดียิ่งขึ้นโดยการลดระยะเวลาและต้นทุน

 รถAGV
https://www.youtube.com/watch?v=iF62tH_jR78


เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มมีการพัฒนาและมีความทันสมัยมากขึ้น ระบบอัตโนมัติและเครื่องมือต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ปฏิบัติการอย่างคลังสินค้า โดยถือได้ว่าประสิทธิภาพและประโยชน์จากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่พลิกบทบาทการออกแบบคลังสินค้าและการทำงานภายในคลังสินค้าอย่างแท้จริง
เพื่อเป็นการเรียนรู้ถึงความสามารถและวิธีการปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในคลังสินค้ามากขึ้น เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ Swisslog Logistics Automation ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านหุ่นยนต์และโซลูชั่นอินทราโลจิสติกส์ด้านการใช้ข้อมูล โดยทางบริษัทฯ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอัตโนมัติต่างๆ ในอุตสาหกรรม แนวความคิดต่อเทคโนโลยีอัตโนมัติในตลาดที่เปลี่ยนไป และแนวโน้มที่ทางบริษัทฯ เล็งเห็นในอนาคต
The Capabilities of Automationคลังสินค้าเป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมการยกขนสินค้าที่มีความซับซ้อน ในแต่ละวันมีสินค้าหลากหลายชิ้นที่ถูกขนส่งเข้ามาในคลังสินค้าและศูนย์กลางโลจิสติกส์ โดยสินค้าที่เข้าและออกจากศูนย์ปฏิบัติการแต่ละชิ้นถูกติดตามและรายงานว่าอยู่ตำแหน่งไหนในคลังสินค้า มีสถานะอย่างไร และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปฏิบัติการไหนที่จะไร้ข้อบกพร่องโดยสิ้นเชิง จากความซับซ้อนของกิจกรรมที่เกิดในคลังสินค้าย่อมมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดในส่วนนี้ หลายบริษัทจึงตัดสินใจนำระบบจัดการสินค้าอัตโนมัติเข้ามาช่วยเหลือการปฏิบัติการ
Swisslog อธิบายว่า “Automated Guided Vehicle (AGV) เป็นโซลูชั่นอัตโนมัติในการบริหารจัดการสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ปฏิบัติการคอยควบคุม เมื่อเทียบกับการทำงานด้วยแรงงานคนปกติแล้ว ระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้แม่นยำ สม่ำเสมอ ทำงานได้ยาวนานกว่า และไม่มีความผิดพลาดจากความเหนื่อยล้าหรือความสะเพร่าในการทำงาน”
“สำหรับการทำงานของ AGV เทคโนโลยีนี้มีการออกแบบระบบการทำงานอัตโนมัติ โดยบริหารจัดการและขนย้ายสินค้า ซึ่งประเมินจากแนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม ลูกค้าสามารถติดตั้งและปรับใช้ AGV ได้หลากหลายรูปแบบให้เหมาะกับกิจกรรมในคลังสินค้าและรูปแบบการทำงานของตน ยกตัวอย่าง ถ้าลูกค้าต้องการเพิ่มปริมาณสินค้าที่ขนถ่ายในศูนย์ปฏิบัติการก็สามารถเพิ่มจำนวน AGV เพื่อรองรับสินค้าที่มากขึ้นได้ รวมทั้ง ระบบการทำงานของ AGV มีความยืดหยุ่นมากเนื่องจากสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเมื่อเทียบกับระบบสายพาน (conveyor) หากมี AGV ที่ต้องซ่อมบำรุงก็สามารถนำ AGV อีกตัวเข้ามาปฏิบัติงานแทนได้ ซึ่งช่วยรักษาความสามารถในการทำงานสูงสุดต่อวันให้ลูกค้า”
นอกจากนี้ เทคโนโลยีประเภทนี้ยังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ Swisslog อธิบายว่า “ตอนนี้ซัพพลายเชนมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เราจึงออกแบบเทคโนโลยีประเภทต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยปัจจุบัน เราให้บริการรถ AGV ในตลาดหลากหลายประเภทและมีการออกแบบรถยกขนสินค้าเฉพาะสำหรับลูกค้าบางรายที่มีความต้องการเฉพาะ อย่างไรก็ตาม รถ AGV ทุกประเภทมีหน้าที่เหมือนกันคือ การขนย้ายสินค้า การยกขนสินค้าวางซ้อน และบางประเภทก็สามารถจัดเก็บสินค้าได้ด้วย”
“ถึงแม้รถ AGV มีหลากหลายประเภท แต่โดยหลักแล้ว เราสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลักๆ คือ AGV มาตรฐานทั่วไปอย่าง fork AGV และ conveyor AGV ประเภทที่สองคือ รถ AGV แบบเคลื่อนที่ได้ โดยรถ AGV ทั่วไปมีหน้าที่ในการขนส่ง สินค้าและใช้ในการจัดการระบบอินทราโลจิสติกส์ทั่วไป ซึ่งมีให้เลือกตามความต้องการของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน รถที่ขนส่งมีทั้งที่เป็นพาหนะอย่างรถฟอร์คลิฟต์และ conveyor deck และประเภทที่สองคือรถ AGV เคลื่อนที่ได้ ตัวอย่างเช่น ที่ Swisslog เรามีรถ CarryPick ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเคลื่อนที่ได้ ใช้สำหรับจัดเก็บและหยิบสินค้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บสินค้าที่ทันสมัยและมีระบบจัดเก็บสินค้าสำหรับโลจิสติกส์แบบ multi-channel รถยกขนสินค้าเหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Swisslog และ KUKA ซึ่งมีการนำทางโดยใช้ระบบ grid เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ปฏิบัติงานเพื่อยกขนสินค้าและลดระยะการเดินของพนักงาน โดยรถแต่ละคันสามารถเข้ามาทำงานและปฏิบัติหน้าที่แทนกันและกันได้ โดยที่ระบบยังคงสามารถทำงานต่อได้แม้จะมีการลดจำนวนรถลง นอกจากนี้ พนักงานยังสามารถเข้าไปหยิบสินค้าเองได้หากจำเป็น เราออกแบบระบบที่สามารถตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของสินค้าประเภทต่างๆ ได้โดย mobile racks แบบมาตรฐานสามารถปรับขนาดและลักษณะการทำงานได้ตามรูปร่างของสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมแฟชั่นที่ต้องมีการใช้ไม้แขวนเสื้อ ยิ่งกว่านั้น ระบบยังสามารถปรับเปลี่ยนได้หากมีการเปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเราสามารถติดตั้งระบบดังกล่าวในอาคารหรือตึกมีหลังคาต่ำได้ ลูกค้าสามารถเริ่มจากการใช้รถ AGV เพียงไม่กี่คันและเพิ่มจำนวนภายหลังตามความสามารถในการทำงานและปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้น”
Customized Technologyทั้งนี้ เทคโนโลยีประเภทนี้สามารถปรับใช้งานกับสินค้าหลากหลายประเภทที่นำขึ้นวางบนแพเล็ต ตะกร้า bin หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดย AGV สามารถใช้งานร่วมกับการยกขนสินค้าเกือบทุกประเภท โดยสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ด้วยเทคโนโลยีระบบนำทางที่ทันสมัยและมีความสามารถในการยกขนสินค้าที่ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้ AGV จึงเหมาะกับระบบโลจิสติกส์ที่ทั้งซับซ้อนและระบบการทำงานที่มีความเรียบง่าย
Swisslog กล่าวเสริมว่า “AGV ของเราสามารถทำงานได้อิสระแบบ stand-alone หรือสามารถทำงานร่วมกับระบบ ERP ได้ สถานที่ปฏิบัติงานก็มีความปลอดภัยและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังลดโอกาสในการหยิบสินค้าผิดเนื่องจากมีระบบหยิบสินค้าตามสัญญาณไฟ (pick by light) และระบบ pick pointer โดยผู้ใช้งานสามารถปฏิบัติงานได้สะดวกและราบรื่นมากขึ้น นอกจาก AGV ทั่วไปแล้ว เรายังให้บริการเครื่องมือยกขนสินค้าที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า เรามีตัวเลือกทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย ดังนั้นต้องเริ่มจากการศึกษาตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายก่อน ลูกค้าบางรายอาจไม่จำเป็นต้องปรับแต่งรถก็ได้เพราะสามารถเลือกใช้งานจากประเภทรถต่างๆ ที่เราให้บริการอยู่แล้ว”
“บางกรณี เราก็มีลูกค้าที่ต้องการโซลูชั่นอัตโนมัติเช่นกัน หนึ่งในลูกค้าของเราคือ บริษัท AMAG Automobile ที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยเป็นบริษัทผู้นำเข้ารถประเภทต่างๆ ทั้ง VW, Škoda, Audi, SEAT และรถเพื่อการพาณิชย์ของ VW โดย AMAG Automobile มีการวางแผนเปลี่ยนการขนย้ายสินค้าทั้งหมดให้เป็นระบบอัตโนมัติในโซนและระดับชั้นที่กำหนด ซึ่งจากความต้องการดังกล่าว Swisslog ได้ออกแบบคอนเซปต์การทำงานของ AGV ทั้งหมด 20 คัน รวมทั้งซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงาน ระบบนำทางด้วยเลเซอร์และระบบการสื่อสารผ่าน Wi-Fi ในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้รถสามารถทำงานได้ตามที่วางแผนไว้และปฏิบัติการอย่างปลอดภัย ซึ่งประเมินจากจำนวนของรถยกขนสินค้าถือได้ว่าเป็นโครงการติดตั้งรถ AGV ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์และใหญ่ที่สุดของ Swisslog ในปัจจุบัน และทุกวันนี้ ระบบดังกล่าวก็ยังทำงานได้ตรงตามตารางที่กำหนดและสามารถติดตามสถานะของระบบได้อย่างไร้รอยต่อ ความผิดพลาดและความเสียหายของสินค้าลดลง และระยะทางการขนส่งสินค้าภายในคลังสินค้ายังได้รับการปรับให้เหมาะสมขึ้น เนื่องจาก AGV สามารถลดระยะเวลาในการขนถ่ายสินค้าให้เร็วขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์”
นอกจากการติดตั้งเทคโนโลยีที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องคำนึงถึงอีก Swisslog อธิบายเพิ่มเติมว่า “ลูกค้าควรเข้าใจรูปแบบการทำงานและกิจกรรมภายในอาคาร อาทิ จำนวนกะการทำงาน ความแม่นยำในการทำงาน และพื้นที่ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งลูกค้าควรคำนึงถึงความปลอดภัยอีกด้วย การจะปรับใช้ AGV อาคารดังกล่าวต้องมีพื้นที่แข็งแรงมั่นคง พื้นผิวมีความราบเรียบ และมีอัตราการรับน้ำหนักของพื้นอย่างเหมาะสม ยิ่ง AGV ต้องยกขนสินค้าสูงเท่าไรก็ยิ่งต้องมีการติดตั้งจำนวนตัวเซ็นเซอร์มากขึ้นเท่านั้น เพื่อความแม่นยำในการทำงาน รวมทั้งต้องมีการลดความเร็วลง เพื่อความปลอดภัยในการทำงานอีกด้วย”
นอกจากรถ AGV แล้วก็มีเทคโนโลยีอัตโนมัติอื่นๆ ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในแง่การขนส่งสินค้า การจัดเก็บ และการหยิบสินค้า Swisslog กล่าวว่า “หุ่นยนต์จัดการยกขนสินค้า (robot handling) ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ Swisslog มี ซึ่งเราไม่ได้ให้บริการเพียงการนำสินค้ารวบรวมบนแพเล็ตและยกสินค้าออกจากแพเล็ต แต่มีความสามารถมากกว่านั้น เรากำลังออกแบบอนาคตของอินทราโลจิสติกส์ด้วยโซลูชั่นอัตโนมัติผ่านนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เพื่อมอบคุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้า Swisslog ให้การสนับสนุนบริษัทที่มีความคิดก้าวหน้าให้สามารถปฏิบัติงานในคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ระบบอัตโนมัติและซอฟต์แวร์ในการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติและระบบการดึงข้อมูลอย่างเครนซ้อนแพเล็ต เครนยกขนสินค้าน้ำหนักไม่มาก ชั้นจัดเก็บสินค้าสำหรับสินค้าขนาดเล็กและระบบประมวลผลขั้นตอนการดำเนินงาน ระบบสับเปลี่ยน สินค้าขนาดเล็ก และระบบจัดการแพเล็ต นอกจากนี้ Swisslog ยังให้บริการระบบการจัดการคลังสินค้า ซึ่งมีโซลูชั่นครบวงจรให้บริการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ”
ในส่วนของการเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม Swisslog ได้ให้คำแนะนำกับเราว่า “ลูกค้าควรเลือกผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงด้านการให้บริการที่ดี เนื่องจากความสามารถในการบริหารจัดการ การขนถ่าย และการควบคุมแบตเตอรี การให้บริการลูกค้า และการมีอะไหล่ที่ได้มาตรฐาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถและคุณภาพ การทำงานของ AGV ผู้ให้บริการที่ดีที่พร้อมช่วยเหลือและใส่ใจในการซ่อมบำรุงจะทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจ และเมื่อมีข้อติดขัดก็สามารถให้การช่วยเหลือได้ สำหรับ Swisslog เรามีประสบการณ์ด้าน AGV มาเป็นเวลา 45 ปี และจากประสบการณ์ในส่วนนั้น ทำให้เราสามารถออกแบบระบบจากความรู้และประสบการณ์ของเราจนประสบความสำเร็จกับโครงการนับไม่ถ้วน เราได้ผสานความรู้ด้านโครงการ R&D ระหว่าง KUKA และ Swisslog เพื่อผลิตรถ AGV เคลื่อนที่ได้ในระดับ first-class องค์กรของเรามีเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วโลก ทำให้ลูกค้าสามารถวางใจได้ว่า เมื่อต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการสอบถามบริการเพิ่มเติม ทีมงานของเราก็พร้อมให้บริการได้อย่างรวดเร็วและวางใจได้ ทีมปฏิบัติการของเรามีความน่าเชื่อถือและมีความพร้อมตลอดเวลา รวมทั้งสามารถติดตามสถานะของสินค้า นอกจากนี้ยังลดอัตราความเสียหายระหว่างการขนส่งและส่งมอบ โดยไม่ต้องมีพนักงานคอยควบคุม ซึ่งมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่าย”
ทั้งนี้ AGV เป็นหัวข้อที่ได้รับการพูดถึงในอุตสาหกรรมมาเป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็เริ่มเห็นความสามารถและประโยชน์ของเทคโนโลยีในส่วนนี้ และเริ่มมีความคิดเป็นไปในทิศทางบวกเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของเทคโนโลยีนี้ Swisslog กล่าวว่า “ผู้ให้บริการเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยียกขนสินค้าที่มีความยืดหยุ่นและระบบอัตโนมัติอย่าง AGV มากขึ้น ตลาดเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยีประเภทนี้ก็มีส่วนช่วยให้ผู้ปฏิบัติการทำงานได้สำเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้”

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562

หุ่นยนต์โสเพณี

ความหมาย ประวัติ และวิวัฒนาการของหุ่นยนต์
หุ่นยนต์ (robot) คือ เครื่องจักรกลหรือหุ่นที่มีเครื่องกลไกอยู่ภายใน สามารถทำงานได้หลายอย่างร่วมกับมนุษย์ หรือทำงานแทนมนุษย์ และสามารถจัดลำดับแผนการทำงานก่อนหรือหลังได้
ระดับขั้นการทำงานของหุ่นยนต์สามารถจำแนกได้ ๖ ระดับ ตามเกณฑ์มาตรฐาน ของสมาคมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม แห่งญี่ปุ่น (Japanese Industrial Robot Association: JIRA) ดังนี้
ระดับที่ ๑ กลไกที่ถูกควบคุมด้วยมนุษย์ (manual-handling device)
ระดับที่ ๒ หุ่นยนต์ที่ทำงานตามแผนล่วงหน้าที่กำหนดไว้  โดยไม่สามารถปรับเปลี่ยนแผนงานได้ (fixed-sequence robot)
ระดับที่ ๓ หุ่นยนต์ที่ทำงานตามแผนล่วงหน้าที่กำหนดไว้  โดยสามารถปรับเปลี่ยนแผนงานได้ (variable-sequence robot)
ระดับที่ ๔ ผู้ควบคุมเป็นผู้สอนงานให้แก่หุ่นยนต์  หุ่นยนต์จะทำงานเล่นย้อนกลับ ตามที่หน่วยความจำบันทึกไว้ (playback robot)
ระดับที่ ๕ ผู้ควบคุมบันทึกข้อมูลเชิงตัวเลขการเคลื่อนที่ให้แก่หุ่นยนต์ และหุ่นยนต์สามารถทำงานได้เอง โดยไม่ต้องมีการสอนงาน (numerical control robot)
ระดับที่  ๖ หุ่นยนต์มีความฉลาด สามารถเรียนรู้สภาพแวดล้อม และตัดสินใจทำงานได้ด้วยตัวเอง (intelligent robot)
สำหรับสถาบันหุ่นยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา (The Robotics Institute of America: RIA) จะพิจารณาเพียงระดับที่ ๓-๖ เท่านั้น จึงถือว่า เป็นหุ่นยนต์
หุ่นยนต์สามารถจำแนกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ ตามลักษณะการใช้งาน คือ
๑. หุ่นยนต์ชนิดติดตั้งอยู่กับที่ (fixed robot) หุ่นยนต์ประเภทนี้มีลักษณะเป็นแขนกล ซึ่งสามารถขยับ และเคลื่อนไหวได้เฉพาะข้อต่อ นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
๒. หุ่นยนต์ชนิดเคลื่อนที่ได้ (mobile robot) หุ่นยนต์ประเภทนี้สามารถเคลื่อนที่ไปได้ด้วยตัวเอง โดยการใช้ล้อ ขา หรือการขับเคลื่อนในรูปแบบอื่นๆ

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2562

เครื่อง CNC การผลิตสเตอร์


CNC ย่อมาจากคำว่า Computer Numerical Control หมายถึง การควบคุมการทำงานของเครื่องจักรด้วยคำสั่งเชิงตัวเลขด้วยคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ และ ระบบอิเลคทรอนิกส์ จะทำการประมวลผล และ สั่งการเพื่อให้เครื่องจักรทำงาน หรือ เกิดการเคลื่อนที่จากชุดคำสั่งต่าง ๆ หรือ กระทำตามเงื่อนใขที่ถูกกำหนด
หลักการทำงาน ของ CNCการผลิตชิ้นงานจะถูกควบคุมการสั่งการด้วย Computer ประกอบด้วย ระยะของการเคลื่อนที่ต่างๆ หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น หัวกัด Print head ใน 3d Printer ซึ่งจะถูกคำนวณ และ สั่งการจากชุดคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ขั้นต้นจนสิ้นสุดการทำงาน  โดยชุดควบคุมจะได้รับข้อมูลขั้นตอนการทำงาน และ การสั่งการ จากโปรแกรม ที่เราเรียกว่า NC Code หรือ G code (Link) ที่เรารู้จักกัน ซึ่งต้องวางแผนทุกขั้นตอนก่อนทุกครั้ง และ สร้างเป็นโปรแกรม เพื่อให้ชุดควบคุมทำงานได้สำเร็จสำหรับแกนหมุนจะมีตั้งแต่  2 แกน – 12แกน สามารถทำงานได้ 2 มิติ ,และ 3มิติ  โดยทั่วไปจะ สร้างโปรแกรมด้วยคอมพิวเตอร์ และ นำข้อมูลผ่าน Post processor จึงจะได้ NC-CODE มาใช้งาน วัสดุที่นำมาใช้กับ CNC เพื่อสร้างชิ้นงาน เช่น ไม้ , แผ่น Acrylic, พลาสติก, พลาสติกวิศวกรรม ,ทองเหลือง และ อลูมิเนียม เป็นต้น ซึ่งชิ้นงานที่ได้จะเป็นงานในลักษณะ 2 มิติ หรือ 3 มิติ แล้วแต่กำหนด. ขึ้นอยู่กับขนาด และความสามารถของเครื่อง ที่มีความหลาหหลาย
เครื่อง DNC กล่องส่งโปรแกรม

ความหมายของ DNC

Distribution Numerical Control: DNC SYSTEM 
คือระบบที่มีคอมพิวเตอร์กลางในการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนและกระจายข้อมูลซึ่งในที่นี้คือ โปรแกรม NC Data กับหน่วยควบคุม NC ของเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละตัวได้เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริการข้อมูลทั้งรับข้อมูล และส่งข้อมูลจำเพราะให้กับเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละเครื่องในเครือข่ายตามที่แต่ละเครื่องต้องการพร้อมๆ กันได้ในเวลาเดียวกัน

          SUPER-DNC SOFTWARE คือ โปรแกรมควบคุมระบบ DNC ที่มีความทันสมัย มีสเถียรภาพและสามารถสื่อสารกับเครื่องจักรกลระบบ CNC ได้หลากหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ ทั้งเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดหรือเครื่องเก่าที่มีอายุใช้งานและถูกสร้างขึ้นมานานนับ 10 ปีแล้วก็ตาม
          SUPER-DNC ทำให้โรงงานไม่ว่าจะเป็นงานผลิตแม่พิมพ์ Mould, DIE, Punch Die หรือ Part Production ก็ตาม สามารถใช้เครื่องจักร และ NC Data ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันมีค่าของโรงงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โรงงานและองค์กร สร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดีและยังทำให้พนักงานทำงานได้สะดวกขึ้นเป็นการเสริมขวัญและกำลังใจพนักงานให้มีความรักองค์กรและมุ่งมั่นในการสร้างผลงานที่ดีแก่องค์กรอีกด้วย
คุณลักษณะมาตรฐาน Standard Features of SUPER-DNC System
          1. การเรียกโปรแกรม NC Data ที่ต้องการ โดยรับส่งโดยตรงระหว่างเครื่องจักรกลระบบ CNC กับคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการ (SUB Program Calling) โดยการเรียกโดยตรงที่หน้าเครื่องจักรกลระบบ CNC
          2. การให้บริการกระจายข้อมูลโปรแกรม NC Data ในแบบเครื่องข่ายโดยมี Server เป็นศูนย์กลางการติดต่อรับส่งข้อมูลโปรแกรม NC Data กับเครื่องจักรกลระบบ CNC ทุกเครื่องในเครือข่าย โดยมีสถานี Client Station ซึ่งเป็นสถานี Generate (สร้าง) หรือ INPUT หรือ EDIT ข้อมูลโปรแกรม NC Data เพื่อส่งเข้าสู่ Server กลางได้ (Client – Server Configuration System)
          3. การเริ่มกัดงานใหม่ต่อจากการกัดที่หยุดค้างไว้เดิม (Start Cutting from any program line) กรณีที่มีการหยุดกัดงานกลางคัน เช่น Tool สึกหรือ Tool แตก จำเป็นต้องหยุดค้างโปรแกรมไว้เพื่อเปลี่ยน Tool ใหม่ จากนั้น Software SUPER-DNC สามารถส่งต่อข้อมูลโปรแกรม NC Data ในบรรทัดต่อไปได้ โดยไม่ต้องเริ่มงานใหม่ทั้งหมด
          4. สามารถกำหนด Protocols พิเศษต่างๆ (เครื่องจักรเก่าๆ หรือที่ไม่แพร่หลายในตลาด) โปรแกรม SUPER-DNC สามารถติดต่อกับเครื่องจักรกลระบบ CNC ที่มี Protocol ที่แตกต่างกันได้อย่างหลากหลายและกว้างขวาง (Special Protocols for CNC Machines)
          5. การทำงานแบบ Auto-Search สำหรับส่ง Sub Programs หลายๆ โปรแกรมเรียงไปตามลำดับไปยังเครื่องจักรเป้าหมาย
          6. OPTION การแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ (Notify User for Events such as cutting finish) เช่น เมื่อกัดงานเสร็จแล้ว หรือเกิดการหยุดกัดงานโดยไม่คาดคิด SUPER-DNC สามารถติดต่อด้วย Special GPRS Data modem เพื่อส่งแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile phone) ด้วย E-mail หรือ SMS Message ของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้ทราบและดำเนินการต่อไปได้
เครื่อง NC เครื่องตัดท่อ

-nc  ย่อมาจากคำว่าอะไร และมีความหมายอย่างไร

NC ย่อมาจาก (Numerical Control )

มีความหมายว่า การควบคุมการทำงานของเครื่อง NC ด้วยคำสั่งเชิงตัวเลขและตัวอักษรที่ถูกสร้างขึ้นมาในรูปของคำสั่งซึ่งก็คือ โปรแกรม NC. ระบบ NC ซึ่งนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1950 ซึ่งส่วนมากจะถูกนำมาใช้ในการควบคุมการทำงานของเครื่องมือกลเป็นส่วนใหญ่.

-cnc ย่อมาจากคำว่าอะไร และมีความหมายอย่างไร

cnc ย่อมาจาก (Computer Numerical Control)

มีความหมายว่า  การบังคับการเครื่องจักรด้วยระบบตัวเลขและตัวอักษร ซึ่งคำจำกัดความนี้ได้มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวคือ การเคลื่อนที่ต่างๆตลอดจนการทำงานอื่นๆของเครื่องจักรกล จะถูกควบคุมโดยรหัสคำสั่งที่ประกอบด้วยตัวเลข ตัวอักษร และสัญลักษณ์อื่นๆซึ่งจะถูกแปลงเป็นคลื่นสัญญาณ(Pulse)ของกระแสไฟฟ้าหรือสัญญาณออกอื่นๆ ที่จะไปกระตุ้นมอเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อทำให้เครื่องจักรกลทำงานตามขั้นตอนที่เห็นแก่ตัวซีเอ็นซี( CNC )ย่อมาจากคำว่าComputer Numerical Controlระบบควบคุม แบบนี้จะมีคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถสูงเพิ่มเข้าไปภายในหมู่ทำให้สามารถสั่งงานกับข้อมูลที่ป้อนเข้าไปในระบบ และประมวลผลข้อมูลเพื่อนำผลลัพธ์ที่ได้ไปควบคุมการทำงานของเครื่องจักรกล  หรืออาจจะกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า ระบบ ( CNC ) คือการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยควบคุมการทำงานเครื่องจักรกลอัตโนมัติต่างๆ เช่น เครื่องกัด เครื่องกลึง เครื่องเจาะ เครื่องเจียระไน ฯลฯ โดยการสร้างรหัส ตัวเลข สัญลักษณ์ หรือเรียกว่าโปรแกรม NC ขึ้นมาควบคุมการทำงานของเครื่องจักรกล ซึ่งสามารถทำให้เกิดชิ้นงานได้รวดเร็วถูกต้อง และเที่ยงตรงในปัจจุบันเครื่องจักรกล เอ็นซี NC ส่วนมากจะหมายถึง เครื่องจักรกลซีเอ็นซี ( CNC ) ทั้งนี้เพราะว่าระบบเอ็นซีที่ไม่มีคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องประกอบ มักไม่นิยมสร้างใช้แล้ว เนื่องจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูก ดังนั้น ราคาของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ที่เพิ่มขึ้นมา เกือบจะไม่ต้องนำมาคิดเมื่อเทียบกันราคาของเครื่องจักรกลทั้งเครื่องนับตั้งแต่ปีค.ศ. 1960 เป็นต้นมา เทคโนโลยีทางด้านไมโครโปรเซสเซอร์เข้ามามีบทบาทแทนที่หลอดสุญญากาศ และทรานซิสเตอร์ก็มีการคืบหน้าจากเครื่องจักร NC

ระบบ CNC มีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ

1.ชุดคำสั่ง (Programmed)

คือคำสั่งในแต่ละขั้นตอนเพื่อกำหนดให้เครื่องจักร NC ทำงานตามที่เราต้องการ โดยที่ชุดคำสั่งนี้จะถูกสร้างขึ้นในลักษณะของตัวเลข ตัวอักษรสัญลักษณฺ์ต่างๆ แล้วเก็บไว้ในเทปกระดาษที่เจาะรู เมื่อจะนำไปใช้งานก็จะใช้เครื่องอ่านเทปเพื่อแปลรหัสคำสั่งให้ทำงานตามขั้นตอน.

2.หน่วยควบคุมการทำงานของเครื่องหรือเอ็มซียู (MCU : Machine Control Unit)

คือส่วนที่ทำหน้าที่อ่านและตีความหมายของคำสั่งเพื่อแยกคำสั่งออกเป็นสัญญาณไปควบคุมเครื่องจักรต่อไป ประกอบไปด้วยเครื่องอ่านเทปช่องส่งสัญญาณควบคุม(Control Output Signal) ระบบการตรวจสอบแล้วส่งผลย้อนกลับ(Feedback Transducer) และแผงควบคุม(Control Panel) สำหรับควบคุมการเปิด/ปิดเครื่องจักร NC

3.เครื่องจักร NC(NC Machine Tool)

เป็นส่วนที่ใช้ในการขึ้นรูปชิ้นงานตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่เราเขียนขึ้น

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562

บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 
    ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำรงชีวิตเป็นอันมาก  เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี  เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐานสามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก  มีราคาถูกลง  สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งให้บริการด้านข้อมูล  ข่าวสารด้วยกลไกอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก  รวดเร็วตลอดเวลา  จะเห็นว่าชีวิตปัจจุบันเกี่ยวข้อง กับเทคโนโลยีเป็นอันมาก  ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการทำงาน


รูปที่ 1.1 การติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม

    เราลองจินตนาการดูว่า  เราเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านใดบ้างจากตัวอย่างต่อไปนี้   เมื่อตื่นนอนเราอาจได้ยินเสียงจากวิทยุ  ซึ่งกระจายเสียงข่าวสารหรือสาระบันเทิง  เราใช้โทรศัพท์สื่อสารกับเพื่อน  ดูรายการทีวีหรือวีดิทัศน์  ระหว่างมาโรงเรียนเดินทางผ่านถนนที่มีระบบไฟสัญญาณที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์  ที่ศูนย์การค้าเราขึ้นลิฟต์ ขึ้นบันไดเลื่อนที่มีการควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์  ที่บ้านอาจมีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ  ทำอาหารด้วยเตาอบ  ซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์  ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า  จะเห็นว่าชีวิตในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอันมาก  อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบในการทำงาน


รูปที่ 1.2 เครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน

    ในอดีตยุคที่มนุษย์ไม่มีถิ่นฐานแน่นอน   มีชีวิตที่เร่ร่อน   มีอาชีพเกษตรกรรม  ล่าสัตว์  ต่อมามีการรวมตัวกันเป็นสังคมเมือง    และทำให้เกิดการผลิตเชิงอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าและบริการปริมาณมาก สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง  แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530  เป็นต้นมา  ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสนเทศ  ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก  การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง  ทำให้ข่าวสารแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว  สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดน  เพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ไปยังประเทศต่าง ๆ  ได้อย่างรวดเร็ว

นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
    คำว่า   “เทคโนโลยี”     หมายถึง    การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์  การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ  กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ    และการนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์    เทคโนโลยีจึงเป็นคำที่มีความหมาย กว้างไกล  เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดเวลา


รูปที่  1.3 วงจรรวม

    ส่วนคำว่า “สารสนเทศ”  หมายถึง  ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์  มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ  เป็นจำนวนมาก     เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่    กฎเกณฑ์และวิชาการ


รูปที่  1.4 สื่อที่ช่วยในการรับส่งข้อมูลข่าวสาร

    ภายในสมองมนุษย์ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลไว้มากมายจะมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ  การเรียกใช้  การประมวลผล  และการคิดคำนวณ  ดังนั้นจึงมีผู้พยายามสร้างเครื่องจักรเครื่องมือ  เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ  เช่น  เครื่องคอมพิวเตอร์  ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำได้มาก สามารถให้ข้อมูลได้แม่นยำและถูกต้องเมื่อมีการเรียกค้นหา  ทำงานได้ตลอดวันไม่เหน็ดเหนื่อย  และยังส่งข้อมูลไปได้ไกลและรวดเร็วมาก  เครื่องจักร  อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสนเทศนั้นมีมากมายตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์  อุปกรณ์รอบข้าง  ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่   ทำให้เกิดงานบริการที่อำนวยความสะดวกต่างๆในชีวิตประจำวัน
    เมื่อรวมคำว่า “เทคโนโลยี” กับ “สารสนเทศ”  เข้าด้วยกัน  จึงหมายถึง  เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ  เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล  การประมวลผล  การพิมพ์  การสร้างรายงาน  การสื่อสารข้อมูล  ฯลฯ  เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึง  เทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ  การใช้  และการดูแลข้อมูล


รูปที่  1.5 การฝากถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม

    เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายที่กว้างขวาง   รอบ ๆ ตัวที่เกี่ยวกับการใช้สารสนเทศอยู่มาก  ดังนี้
        1. การเก็บรวบรวมข้อมูล  เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ  นักเรียนอาจเห็นพนักงานการไฟฟ้าไปที่บ้านพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เพื่อบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้าในการสอบที่มีผู้เข้าสอบจำนวนมากก็มีการใช้ เดินสอดำระบายตามช่องที่เลือกตอบ  เพื่อให้เครื่องอ่านเก็บรวบรวมข้อมูลได้  เมื่อไปซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าก็มีการใช้รหัสแท่ง (bar code)  พนักงานจะนำสินค้าผ่านการตรวจของเครื่องอ่านรหัสแท่งเพื่ออ่านข้อมุลการซื้อ สินค้า  เมื่อไปที่ห้องสมุดก็พบว่าหนังสือมีรหัสแท่งเช่นเดียวกัน  การใช้รหัสแท่งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการข้อมูล  จะเห็นได้ว่าการเก็บ
รวบรวมข้อมูลจากคอมพิวเตอร์สามารถเก็บได้หลายแบบ


รูปที่ 1.6 ตัวอย่างการเก็บรวบรวมข้อมูล  โดยพนักงานใช้เครื่องกราดตรวจอ่านรหัสแท่ง

        2. การประมวลผล  ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเก็บในสื่อต่าง ๆ  เช่น  แผ่นบันทึก
แผ่นซีดี  และเทป  ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลตามความต้องการ  เช่น  แยกแยะข้อมูล
เป็นกลุ่ม  เรียงลำดับข้อมูล  คำนวณ  หรือจัดการคัดแยกข้อมูลที่จัดเก็บนั้น


รูปที่ 1.7 ตัวอย่างการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยพนักงานใช้เครื่องกราดตรวจอ่านรหัสแท่ง

        3. การแสดงผลลัพธ์  คือการนำผลจากการประมวลผลที่ได้  มาแสดงผลลัพธ์ให้อยู่ในรูปแบบต่าง ๆ   อุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงผลลัพธ์มีมาก  สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ  รูปภาพ   ตลอดจนพิมพ์ออกมาที่กระดาษ     การแสดงผลลัพธ์มีทั้งที่แสดงเป็นภาพ     เสียง  และวีดิทัศน์  เป็นต้น


รูปที่ 1.8 การแสดงผลลัพธ์ทางเครื่องพิมพ์

        4. การทำสำเนา  เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ  การทำสำเนาจะทำ
ได้ง่าย  และทำได้เป็นจำนวนมาก  อุปกรณ์ที่ช่วยในการทำสำเนาจัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศอีกประเภทหนึ่งที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง  เรามีเครื่องพิมพ์  เครื่องถ่ายเอกสาร  อุปกรณ์การเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์  เช่น  แผ่นบันทึก  ซีดีรอม  ซึ่งสามารถทำสำเนาได้เป็นจำนวนมาก


รูปที่  1.9 ตัวอย่างการทำสำเนา

        5. การสื่อสารโทรคมนาคม  เป็นวิธีการที่จะส่งข้อมูลหรือข่าวสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง  หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมากๆ  ปัจจุบันมีระบบสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภท    ตั้งแต่โทรเลข  โทรศัพท์  โทรสาร  วิทยุ  โทรทัศน์  และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีรูปแบบของสื่อหลายอย่าง  เช่น  สายโทรศัพท์  เส้นใยนำแสง  เคเบิลใต้น้ำ  คลื่นวิทยุ  ไมโครเวฟ   และดาวเทียม


รูปที่  1.10 การสื่อสารโทรคมนาคม


ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
    โดยพื้นฐานของเทคโนโลยี ย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้  แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก   ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ  มีดังนี้
        1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การทำงานรวดเร็ว  ถูกต้อง  และแม่นยำ   ในระบบการจัดการขององค์กรทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินการและตัดสินใจ    ระบบธุรกิจจึงใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นเครื่องมือช่วยในการดำเนินการเพื่อให้การทำงานมีความรวดเร็ว  ถูกต้อง  และแม่นยำ  เช่น  ใช้ในระบบฝากถอนเงิน และระบบจองตั๋วเครื่องบิน
        2. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยทำให้การบริการกว้างขวางขึ้น  เมื่อมีการพัฒนาระบบเก็บและใช้ข้อมูล  ทำให้การบริการต่างๆอยู่ในรูปแบบการบริการแบบกระจาย  ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน  สามารถถามข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์  นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
        3. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ  ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในองค์กร  ประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์  ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล  ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษีซึ่งในปัจจุบันองค์กรทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้


รูปที่  1.11 เว็บไซต์ระบบทะเบียนราษฎร์

        4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยงานในชีวิตประจำวัน


รูปที่ 1.12 สารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ


ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ    ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมมีมาก  มีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง  ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศกล่าวไว้ดังนี้
        1. การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม  เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น  มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน  เช่น  ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ  ใช้ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน  เป็นต้น


รูปที่ 1.13 ตัวอย่างการใช้รีโมทเพื่อความสะดวกในการควบคุมโทรทัศน์

        2. เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส  เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง  แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร  ทำให้มีการกระจายโอกาสการเรียนรู้  มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล  การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล  นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่ใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร
        3. สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน  การเรียนการสอนในโรงเรียน มีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ  คอมพิวเตอร์ช่วยสอน  คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา  จัดตารางสอน  คำนวณระดับคะแนน  จัดชั้นเรียน  ทำรายงาน  เพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน  ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น


รูปที่ 1.14 เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน

        4. เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม  การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่าง  จำเป็นต้องใช้สารสนเทศ  เช่น  การดูแลรักษาป่า  จำเป็นต้องใช้ข้อมูล  มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม  การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ  การพยากรณ์อากาศ  การจำลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข  การเก็บรวบรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่างๆ  การตรวจวัดมลภาวะ  ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย  ที่เรียกว่า โทรมาตร  เป็นต้น


รูปที่ 1.15 ภาพถ่ายจากการสื่อสารผ่านดาวเทียมแสดงสภาวะพื้นดินและวัดมลภาวะ

        5. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ  กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี  อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม  มีการใช้ระบบป้องกันภัย  ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงาน


รูปที่  1.16 เรือจักรีนฤเบศร์

        6. การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม  การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็นต้องหาวิธีการในการผลิตให้ได้มาก  ราคาถูกลง  เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก  มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ  การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า  เพื่อให้ซื้อสินค้าสะดวกขึ้น


รูปที่  1.17 ตัวอย่างกระบวนการผลิตสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม

        7. ความคิดและการสร้างสรรค์  เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลกระทบเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน  และมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของเทคโนโลยีการสื่อสาร

1. การสื่อสารและโทรคมนาคมนั้น ส่งผลต่อระบบสังคมการเมื่องในแง่ของการเพิ่มช่องทางเลือกในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนให้มากขึ้น ส่วนในระดับปัจเจกบุคคลนั้นพัฒนาการของเทคโนโลยี การสื่อสารทำให้เกิดการเรียนรู้ เกิดทัศนคติ ตลอดจนจิตสำนึกทางการเมืองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งร่วมกันโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องพรมแดน รัฐบาลและอำนาจอธิปไตยอีกต่อไป
2. การขยายตัวของการสื่อสารและโทรคมนาคมได้มีอิทธิพลที่สร้างผลต่อสังคมไทยทั้งในทางตรงและทางอ้อม อันเนื่องมาจากการหลั่งไหลของ "ทุนนิยมสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ทุนนิยมโลก การค้าระหว่างประเทศ หรือธุรกิจข้ามชาติเข้ามามีบทบาทต่อการเมืองไทย เกิด "การหลั่งไหลของทุนและข้อมูลข่าวสารเข้าสู่ทุกส่วนของประเทศไทย
3. การสื่อสารโทรคมนาคมมีความสะดวกติดต่อกันง่านขึ้นจึงส่งผลให้การรับรู้ข่าวสารมีความรวดเร็ว และมีลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วโลก หรือเกิดเป็นลักษณะ "หมู่บ้านโลก" (global village) และ "วัฒนธรรมโลก" (global culture) ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรม อันเนื่องมาจากสื่อสารที่รวดเร็วเสมือนอยู่ในชุมหรือประเทศเดียวกัน ทำให้เกิดการส่งผ่านวัฒนธรรมผ่านสื่อทันสมัยในยุคโลกาภิวัตน์ จากประเทศตะวันตกที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมแตกต่างกับสังคมไทย ทัศนคติและค่านิยมสมัยใหม่แบบตะวันตกจะหลั่งไหลเข้าสู่สังคมไทยที่ยังคงมีทัศนคติ ค่านิยมและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมอยู่ จึงเกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรมนำมาซึ่งปัญหาสังคมต่างๆ มากมาย

     ข้อเสียของเทคโนโลยีการสื่อสาร
      ผลกระทบที่เกิดจากเทคโนโลยีการสื่อสาร และโทรคมนาคาที่เกิดขึ้นในทางลบมีหลายประการ เช่น ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ อาชญากรรมบนอินเตอร์เนต  การแพร่ภาพอนาจารย์บนเครือข่าย การแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของเยาวชน  การพนันบนเครือข่าย การพาณิชย์ที่ขัดต่อกฏหมายและศิลธรรม ปัญหาบุคลากรสาขาวิชาชีพเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ปัญหาอาชญากรรมชนิดใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มจะสร้างปัญหาให้แก่สังคมโดยรวม จนรัฐบาลของประชาชนที่เกิดจากอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
2. ธุรกิจที่ทำภายใต้เทคโนโลยีสารสนเทศและอาศัยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ขัดต่อศิลธรรมและจริยธรรมมีมากมาย ทั้งที่ผิดศิลธรรมชัดเจน และที่อยู่ในข่ายหลอกลวงให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ธุรกิจเหล่านี้มาในรูปแบบหนึ่งของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
3. ปัจจุบันการจัดเก็บข้อมูลในระบบออนไลน์ช่วยให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลมักจัดทำเพื่อประโยชน์ในกิจกรรมของนิติบุคคล หรือการให้บริการของหน่วยต่างๆ ซึ่งผู้ใช้บริการมักเข้าใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้นั้นจะไม่ถูกนำไปเผยแพร่หรือนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ แต่ในความเป็นจริงข้อมูลเหล่านี้อาจถูกละเมิดได้ โดยที่เจ้าของข้อมูลอาจรู้เลยก็ได้
4. อินเทอร์เน็ตนั้นมิได้มีแต่ประโยชน์เพียงด้านเดียว เป็นที่ยอมรับกันว่าความไร้ขอบเขตของการออนไลน์ทำให้เกิดผลในทางลบหลายๆ ประการ ที่เห็นได้ชัดคือปัญหาสื่อลามกอนาจาร การล่อลวง เกมออนไลน์ เป็นต้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยเหล่านี้มักเป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งขาดความรู้ ความเข้าใจ และความระมัดระวังตัวในการออนไลน์หรือการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
ผลกระทบเทคโนโลยีการสื่อสารส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างไร?

ผลกระทบในทางบวก 

1. การสื่อสารและโทรคมนาคมนั้น ส่งผลต่อระบบสังคมการเมื่องในแง่ของการเพิ่มช่องทางเลือกในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนให้มากขึ้น ส่วนในระดับปัจเจกบุคคลนั้นพัฒนาการของเทคโนโลยี การสื่อสารทำให้เกิดการเรียนรู้ เกิดทัศนคติ ตลอดจนจิตสำนึกทางการเมืองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งร่วมกันโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องพรมแดน รัฐบาลและอำนาจอธิปไตยอีกต่อไป 

2. การขยายตัวของการสื่อสารและโทรคมนาคมได้มีอิทธิพลที่สร้างผลต่อสังคมไทยทั้งในทางตรงและทางอ้อม อันเนื่องมาจากการหลั่งไหลของ "ทุนนิยมสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ทุนนิยมโลก การค้าระหว่างประเทศ หรือธุรกิจข้ามชาติเข้ามามีบทบาทต่อการเมืองไทย เกิด "การหลั่งไหลของทุนและข้อมูลข่าวสารเข้าสู่ทุกส่วนของประเทศไทย 

3. การสื่อสารโทรคมนาคมมีความสะดวกติดต่อกันง่านขึ้นจึงส่งผลให้การรับรู้ข่าวสารมีความรวดเร็ว และมีลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วโลก หรือเกิดเป็นลักษณะ "หมู่บ้านโลก" (global village)และ "วัฒนธรรมโลก" (global culture) ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรม อันเนื่องมาจากสื่อสารที่รวดเร็วเสมือนอยู่ในชุมหรือประเทศเดียวกัน ทำให้เกิดการส่งผ่านวัฒนธรรมผ่านสื่อทันสมัยในยุคโลกาภิวัตน์ จากประเทศตะวันตกที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมแตกต่างกับสังคมไทย ทัศนคติและค่านิยมสมัยใหม่แบบตะวันตกจะหลั่งไหลเข้าสู่สังคมไทยที่ยังคงมีทัศนคติ ค่านิยมและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมอยู่ จึงเกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรมนำมาซึ่งปัญหาสังคมต่างๆ มากมาย 



ผลกระทบในทางลบ

ผลกระทบที่เกิดจากเทคโนโลยีการสื่อสาร และโทรคมนาคาที่เกิดขึ้นในทางลบมีหลายประการ เช่น ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ อาชญากรรมบนอินเตอร์เนต  การแพร่ภาพอนาจารย์บนเครือข่าย การแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของเยาวชน  การพนันบนเครือข่าย การพาณิชย์ที่ขัดต่อกฏหมายและศิลธรรม ปัญหาบุคลากรสาขาวิชาชีพเทคโนโลยีสารสนเทศ

1. เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ปัญหาอาชญากรรมชนิดใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มจะสร้างปัญหาให้แก่สังคมโดยรวม จนรัฐบาลของประชาชนที่เกิดจากอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ 

2. ธุรกิจที่ทำภายใต้เทคโนโลยีสารสนเทศและอาศัยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ขัดต่อศิลธรรมและจริยธรรมมีมากมาย ทั้งที่ผิดศิลธรรมชัดเจน และที่อยู่ในข่ายหลอกลวงให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ธุรกิจเหล่านี้มาในรูปแบบหนึ่งของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 

3. ปัจจุบันการจัดเก็บข้อมูลในระบบออนไลน์ช่วยให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลมักจัดทำเพื่อประโยชน์ในกิจกรรมของนิติบุคคล หรือการให้บริการของหน่วยต่างๆ ซึ่งผู้ใช้บริการมักเข้าใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้นั้นจะไม่ถูกนำไปเผยแพร่หรือนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ แต่ในความเป็นจริงข้อมูลเหล่านี้อาจถูกละเมิดได้ โดยที่เจ้าของข้อมูลอาจรู้เลยก็ได้ 




4. อินเทอร์เน็ตนั้นมิได้มีแต่ประโยชน์เพียงด้านเดียว เป็นที่ยอมรับกันว่าความไร้ขอบเขตของการออนไลน์ทำให้เกิดผลในทางลบหลายๆ ประการ ที่เห็นได้ชัดคือปัญหาสื่อลามกอนาจาร การล่อลวง เกมออนไลน์ เป็นต้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยเหล่านี้มักเป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งขาดความรู้ ความเข้าใจ และความระมัดระวังตัวในการออนไลน์หรือการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2562

รายชื่อสมาชิกในห้องการจัดการ B

            ชื่อ - สกุล                                            ชื่อเล่น

อาจารย์ ธภัทร        ชัยชูโชค                              อาจารย์ปาล์ม


นางสาวกนกวรรณ   ตรงจิตต์                                น้องพิมพ์

นายกิตตินนท์          สุขชุม                                       พี่แวน

นายจตุพร               อินสุวรรณโณ                             พี่หมู

นางสาวจรีมล          หมุดกิจุฬา                                    จี

นางสาวเจนจิรา       ทองสลับล้วน                            ทราย

นางสาวชลธิชา        เกลี้ยงจันทร์                              พี่โอ

นายไชยวัฒน์           เจริญวงค์                                    บิว


นางสาวณัฐรดา        คุ้ยเหล็ก                                    เนเน่


นายธนกร                  แดงพะเนิน                                เติ้ล

นายธนพล                รักสมัย                                      กล๊อฟ


นางสาวนัฎฐิรา         หอมช่วย                                    พี่โม


นางสาวนิภาภรณ์      เทพเดชา                                   พี่บี


นางสาวบุปผา           ชุมนม                                      มะปราง


นายประพันธ์            มีรุ่งเรือง                                     พี่พัน


นายพจนกร              ชินนา                                         หนุ่ม


นายพุทธิวัฒน์          เกษรักษ์จิรสิน                           เบียร์


นายรัฐมนต์        ช่วยเจริญ                                        สมายด์

นางสาววรรณธิดา      ชุมแก้ว                                      พี่ตี่


นายวิชัย                     บำรุงศรี                                    พี่คิว


นายสิทธิโชค              พันธ์ยอด                                 เข็ม


นางสาวสุพัตรา           บินตาเอบ                              พี่แป้ง


นาวสาวอนุธิดา            เพ็ชรสุวรรณ                           อัน


นางสาวอุไรวรรณ         สอโส๊ะ                             ญา